แกะความสำเร็จการปั้นแบรนด์ ของ Selena Gomez

Selena Gomezrarebeauty
2,805 Views จำนวนผู้เยี่ยมชม

แกะสูตรสำเร็จในการปั้นแบรนด์ Rare Beauty ของ Selena Gomez

แม้จะมาสวมบท “แม่ค้า” ตามหลังรุ่นพี่ในวงการ ที่พาเหรดกันมาปั้นธุรกิจความงามก่อนหน้าหลายปี

จนบางคนกลายเป็นเศรษฐีพันล้านไปแล้ว

แต่อย่างน้อย Selena Gomez ป็อปสตาร์สาวคนดัง ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถึงจะมาช้า แต่มาแล้ว “ปังเวอร์”

หลังจากเปิดตัว Rare Beauty เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว​ นอกจากจะขึ้นแท่นเป็นแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ ที่ครองใจสาว ๆ ทั่วบ้านทั่วเมือง ยังติดโผของ Cosmetify แพลตฟอร์มความงามระดับโลกจากอังกฤษ ที่ยกให้ Rare Beauty เป็น 1 ใน 10 แบรนด์ความงามของคนดังที่สามารถทำรายได้สูงสุดในโลก

เพราะหลังจากเปิดตัวได้ 1 ปี ก็สามารถทำเงินไปได้ถึง 1,955 ล้านบาท

แล้วอะไรทำให้ Rare Beauty กลายเป็นแบรนด์ที่สปอตไลต์หลายดวงต้องสาดแสงเข้าใส่ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

หลายคนอาจจะบอกว่า ลำพังชื่อเสียงของ Selena Gomez ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นกระแส

ก็เพียงพอแล้วที่จะจุดกระแส Rare Beauty ให้ติดตลาด

ซึ่งก็ไม่ผิด เพียงแต่อาจจะไม่ถูกทั้งหมด เพราะถ้าแค่อาศัยชื่อเสียงเป็นตัวดัน ความนิยมของ Rare Beauty คงเจิดจรัสแค่ชั่วคราว

แต่สิ่งที่ทำให้ Rare Beauty กระแสแรงไม่ตกตั้งแต่เปิดตัว มาจากการวางคอนเซปต์ของแบรนด์ให้แตกต่างแถมยังทรงพลัง

เพราะในขณะที่แบรนด์ความงามส่วนใหญ่ ต่างพยายามชูจุดขาย ด้วยการเป็นตัวช่วยให้ผู้หญิงสวยอย่างสมบูรณ์แบบ หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวตกเทรนด์ แต่ Rare Beauty เลือกจะปฏิวัติมาตรฐานความสวยแบบเดิม ๆ

แทนที่ผู้หญิงจะต้องสวยตามแบบพิมพ์นิยม Rare Beauty ชวนทุกคนตามหาความสวย ที่ไม่ได้เกิดจากการที่คนอื่นมองเรา แต่เป็นความงามที่เกิดจากการที่เรามองตัวเราเองฟังดูเหมือนง่าย แต่เชื่อเถอะว่าเป็นความงามที่หาได้ไม่ง่าย สมกับชื่อแบรนด์ Rare Beauty ที่แปลว่า ความงามที่หายากและด้วยการเปิดตัวอย่างทรงพลัง

ตั้งแต่ชื่อแบรนด์ไปจนคอนเซปต์ ที่ชวนให้ผู้หญิงฮึกเหิมและกลับมาเห็นคุณค่าของตัวเองนี้เอง เรียกได้ว่าเป็นการปล่อยหมัดฮุกแรก ที่ทำเอาคู่ต่อสู้เกือบน็อกได้เหมือนกันก่อนจะตามติดด้วยหมัดสอง​ อย่างการสะท้อนชูจุดยืนของแบรนด์ ที่สนับสนุนให้ผู้หญิงสวยแบบไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง


ด้วยความที่ Selena Gomez เคยมีอาการป่วย และต้องเข้ารับการดูแลสุขภาพจิตอยู่บ่อยครั้งทำให้เธอไม่เพียงเข้าใจหัวอกของคนที่ป่วยทางจิตเป็นอย่างดี แต่รู้ด้วยว่าหนึ่งในปัญหาหลักของผู้ป่วย คือ ขาดทุนทรัพย์ในการรักษาเธอจึงตั้งกองทุนที่ชื่อว่า “Rare Impact” ขึ้น​ เพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตต่อไป


โดยเธอวางแผนว่าจะระดมทุนให้ถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,247 ล้านบาท ภายในเวลา 10 ปีและแน่นอนว่า ส่วนหนึ่งในช่องทางหารายได้ มาจากการหักยอดขาย 1% ของแบรนด์ Rare Beauty มาเข้าสมทบในกองทุนนี้หลังจากปูพรมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์แล้ว มาถึงตัวผลิตภัณฑ์นอกจาก Rare Beauty จะมาวินในเรื่องความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่กินขาด


เปิดตัวอย่างสุดปัง ด้วยรองพื้นที่จัดเต็มมาถึง 48 เฉดสี ครอบคลุมทุกโทนสีผิว
เสริมทัพด้วย คอนซีลเลอร์, ลิปสติก, อายแชโดว์, ดินสอเขียนคิ้ว, ไพรเมอร์ไม่พอ ยังมีอุปกรณ์เสริม อย่างแปรงแบบต่าง ๆ มาให้สาว ๆ ได้เลือกแต่งได้ทุกลุก แบบครบจบในแบรนด์เดียว​

ในแง่การออกแบบแพ็กเกจจิงก็น่าสนใจ เพราะออกแบบให้เป็นแนวรักษ์โลกและถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า บรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ Rare Beauty จะมีฝาขวดเป็นเหมือนลูกบอลเล็ก ๆ ซึ่งมองผิวเผินอาจเพื่อความเก๋ มีสไตล์ แต่จริง ๆ แล้วเบื้องหลังดีไซน์นี้มาจากอินไซต์ของ Selena Gomez ที่เคยป่วยเป็นโรคไตอักเสบลูปัส ตั้งแต่ปี 2015 ก่อนจะได้รับการรักษาผ่าตัดปลูกถ่ายไต เป็นที่เรียบร้อยแล้วอาการป่วยของ Selena Gomez มาเกี่ยวอะไรกับการออกแบบแพ็กเกจจิง ?

ต้องบอกว่า หนึ่งในอาการที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคไตอักเสบลูปัส คือ อาการอักเสบปวดบวมตามข้อ บริเวณข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อไหล่ ข้อเข่า หรือข้อเท้าและเพราะเคยลิ้มรสความเจ็บปวดมาด้วยตัวเอง ทำให้ Selena Gomez ให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์กับคนที่อาจจะป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับข้ออักเสบ


ดังนั้นการออกแบบฝาบรรจุภัณฑ์ให้มีลักษณะเหมือนลูกบอลเล็ก ๆ อยู่ด้านบน ก็เพื่อช่วยให้เปิดได้สะดวกขึ้นมาถึงปัจจัยสุดท้าย ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยฐานแฟนคลับของ Selena Gomez ที่แน่นอยู่แล้ว ก็เป็นแต้มต่อสำคัญ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนดังหลายคนหันมาสร้างแบรนด์ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น

Rihanna ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Fenty Beauty
Lady Gaga แบรนด์ Haus Laboratories
Kylie Jenner แบรนด์ Kylie Cosmetics ​และยังมีอีกหลาย ๆ คนซึ่ง Selena Gomez เองก็มีดีกรีเป็นถึงศิลปินชื่อดัง ที่ไม่ได้มีความสามารถแค่การแสดงหลังจากแจ้งเกิดจากซีรีส์ Barney & Friends และซีรีส์ Wizards of Waverly Place

เธอยังเป็นหนึ่งในนักร้องคุณภาพ มีเพลงฮิตติดหูมากมาย แถมยังเป็นนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ก่อนจะผันตัวมาสวมบทนักธุรกิจ ลองเป็น “แม่ค้าซูเปอร์สตาร์”

ปัจจุบัน เธอมียอดผู้ติดตามบนอินสตาแกรมสูงถึง 258 ล้านคน
ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ ที่มีอยู่เกือบ 70 ล้านคน หลายเท่าตัวหรือถ้าลองคำนวณเล่น ๆ ว่า แค่

ครึ่งหนึ่งของผู้ติดตาม Selena ผันมาเป็นลูกค้า ก็ขายสินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 130 ล้านออร์เดอร์แล้ว..ยังไม่รวมกระแสจากสื่อ คนดัง และเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ที่ช่วยโปรโมตให้ Rare Beauty ยิ่งเป็นที่รู้จักจนไม่ต้องสงสัยเลยว่า

ทำไมใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปี ยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมของ Rare Beauty ก็สูงถึง 2.6 ล้านคนมาถึงตรงนี้ คงหายข้องใจแล้วว่า ทำไม Rare Beauty ถึงเป็นแบรนด์ความงามที่แจ้งเกิดในวงการบิวตีอย่างสง่างามแต่สุดท้ายแล้ว

ถ้าถามว่าอะไรคือกุญแจดอกสำคัญ
คำตอบก็ย้อนมาอยู่ที่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่ Selena Gomez ย้ำอยู่เสมอว่า Rare Beauty ไม่ได้ต้องการให้ผู้

หญิงอย่างเรา ๆ สวยในสายตาของใคร แต่แค่เป็นตัวของเราเอง
เหมือนกับ Rare Beauty ที่ไม่ต้องเหมือนแบรนด์ความงามไหน ๆ ก็ปังในแบบของตัวเอง..

ที่มา ลงทุนเกริล์